วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

3.ธุรกิจเครือข่าย VS แชร์ลูกโซ่

ธุรกิจเครือข่าย VS แชร์ลูกโซ่

หลายคนพอได้ยินคำว่าธุรกิจเครือข่ายก็มักจะเกิดความรู้สึกที่ไม่ดี นึกไปถึงการเชิญชวนให้เข้าไปร่วมธุรกิจ ต้องเสียเงินทองลงทุนโดยผู้ชักชวนมักจะเอาผลตอบแทนจากการลงทุนมาล่อ แล้วตัวเองก็จะต้องไปบอกต่อหรือชักชวนคนอื่นเข้ามาลงทุนด้วย เหมือนกับเป็นแชร์ลูกโซ่ที่เคยเกิดขึ้นและเป็นข่าวครึกโครม ทำให้คนที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวได้รับความเสียหาย เสียเงินเสียทองจำนวนมาก

การดำเนินธุรกิจของธุรกิจเครือข่ายจำเป็นต้องขยายฐานเครือข่ายผู้ขายและผู้ใช้สินค้า จึงมีการกำหนดผลตอบแทนให้ผู้เข้าร่วมธุรกิจอย่างน่าดึงดูดใจและมีพลังพอที่จะกระตุ้นให้นักธุรกิจเครือข่ายสร้างเครือข่ายให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และบริษัทก็จะจ่ายผลตอบแทนจากกำไรที่ได้รับไปตามสัดส่วนที่กำหนดให้แก่ผู้ที่ทำยอดได้ตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้

ส่วนแชร์ลูกโซ่ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายนั้น เป็นการหลอกลวงคนให้นำเงินเข้ามาลงทุนโดยรับปากจะให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนปกติ ที่มักอ้างว่าตนได้ลงทุนในการค้าขายอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งทำกำไรมากๆ และก็มีเงินทุนจำกัดทำให้โอกาสที่จะทำกำไรก็มีจำกัดไปด้วย (ทั้งที่จริงๆ ไม่มีการลงทุนเช่นที่ว่านั้น แต่เป็นการหลอกลวงให้หลงเชื่อ) จึงได้ชักชวนผู้อื่นมาร่วมลงทุนและสัญญาจะแบ่งผลตอบแทนให้อย่างงาม ในเมื่อการลงทุนนี้ไม่มีธุรกิจจริงๆ รองรับก็ไม่มีผลกำไรมาแบ่ง เจ้ามือแชร์ก็จะนำเงินของผู้ลงทุนที่ได้รับเข้ามาแล้วจัดสรรเงินส่วนหนึ่งจ่ายเป็นเงินตอบแทนกลับไป เมื่อผู้เข้ามาลงทุนได้รับเงินตอบแทนสูงกว่าการลงทุนปกติก็มักเกิดความโลภและนำเงินมาลงทุนเพิ่ม รวมถึงบอกกล่าวชักชวนคนใกล้ชิดให้เอาเงินมาลงทุนด้วย ในช่วงต้นทุกคนจะได้รับส่วนแบ่งกำไรอย่างงาม แต่สุดท้ายเมื่อเจ้ามือแชร์เห็นว่ากระแสเงินทุนที่เข้ามาพี้คสุดๆ แล้วก็จะเริ่มแสดงอาการว่าธุรกิจเริ่มมีปัญหาและลดการจ่ายผลตอบแทนจนสุดท้ายก็หยุดการจ่ายและหอบเงินที่เหลือทั้งหมดหลบหนีหายไป

จากที่กล่าวมานี้จะเห็นลักษณะที่มีส่วนคล้ายและสิ่งที่แตกต่างกันของธุรกิจเครือข่ายและแชร์ลูกโซ่ดังนี้
สิ่งที่คล้ายกัน
1. เป็นงานที่มีแรงดึงดูดใจให้ขยายขนาดของเครือข่าย
2. ผู้ชักชวนมักเป็นคนที่รู้จักกัน
3. มักกล่าวอ้างถึงผลตอบแทนที่เกินกว่าปกติทั่วไป
สิ่งที่แตกต่าง
1. แชร์ลูกโซ่ไม่มีผลกำไรจากการค้าขายมาตอบแทนนักลงทุน ในขณะที่ธุรกิจเครือข่ายมีผลกำไรจากการขายสินค้าจริงและแบ่งผลกำไรบางส่วนมาตอบแทนนักธุรกิจเครือข่าย
2. เวลาในการดำเนินธุรกิจแชร์ลูกโซ่มักจะสั้นไม่เกิน1-2 ปี ในขณะที่ธุรกิจเครือข่ายที่มั่นคงจะสามารถอยู่ได้ยาวนาน
3. ในธุรกิจแชร์ลูกโซ่ คนที่มาก่อนจะได้เปรียบคนมาทีหลัง (อย่างดีที่สุดก็ขาดทุนน้อยกว่า) ในขณะที่ในธุรกิจเครือข่าย การมาก่อนมาหลังมีความได้เปรียบเสียเปรียบกันน้อยมาก สำคัญที่ผลงานของแต่ละคน คนมาก่อนทำน้อยก็สู้คนมาหลังที่ทำมากไม่ได้

เพื่อความปลอดภัยในการเลือกลงทุนทำธุรกิจเครือข่าย ควรพิจารณาแผนธุรกิจให้เข้าใจ การลงทุนที่ต้องจ่ายเงินก้อนแรกที่สูงนั้นมีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อของธุรกิจเครือข่ายบางรายที่ใช้กลยุทธ์แบบแชร์ลูกโซ่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คิดนอกกรอบ

  คำตอบ : ถ้าเราทำอะไรคิดแค่ในกรอบ ต่อให้ทำจน...ขยัน...ก็ไม่สำเร็จ..แต่ถ้าเรา ลองคิดนอกกรอบดู..อาจเป็นหนทางหนึ่งที่สำเร็จก็ได้..ครับ...